เรื่องราวชีวิตของ ‘บิลลี่ ฮอลิเดย์‘ ตำนานศิลปินแจ๊สชาวอเมริกัน ที่ต้องยุติธรรมต่อต้านการเหยียดผิวจนก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมครั้งยิ่งใหญ่ในอเมริกาและทั้งโลก จนถูกรัฐบาลตราหน้าเป็นนักร้องขบถ ถูกเล่าขานผ่านภาพยนตร์ ‘THE UNITED STATES VS. BILLIE HOLIDAY’ ภาพยนตร์ที่จะพาผู้ชมสำรวจลงลึกถึงชีวิตและบาดแผลในจิตใจ พร้อมสำรวจเบื้องลึกของเหตุการณ์ที่ทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายการสอบสวนของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมถึงความเป็นมาของบทเพลงต้องห้ามอย่าง ‘Strange Fruit’ ที่ในยุคนั้นเปรียบเสมือนกระบอกเสียงในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของคนผิวดำ
บิลลี ฮอลิเดย์ เกิดวันที่ 7 เมษายน ปี 1915 ตอนที่เธอเกิด พ่อของเธออายุเพียง 16 ปี และแม่ของเธอมีอายุ 18 ปีเท่านั้น ด้วยฐานะยากจน เธอจึงมีชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบาก มีปัญหากับทางโรงเรียน และในวัย 11 ปีก็เคยถูกเพื่อนบ้านข่มขืน
![](https://bangkokradio1.com/web/wp-content/uploads/2022/03/images.jpeg)
ฮฮลิเดย์ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ และเริ่มต้นทำอาชีพโสเภณีในวัย 14 ปี ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนี้เองที่เธอได้รู้จักกับดนตรีและเพลงแจ๊ส ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ หลุยส์ อาร์มสตรอง หรือ เบสซี สมิธ ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอก้าวสู่เส้นทางการเป็นศิลปิน
‘บิลลี ฮอลิเดย์’ คือชื่อที่เธอใช้ในฐานะศิลปินเพลงแจ๊ส โดยเริ่มต้นจากการร้องเพลงในคลับ และได้เซ็นสัญญาออกแผ่นเสียงในวัย 18 ปี ก่อนจะสั่งสมประสบการณ์ชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ และมาโด่งดังสุด ๆ จากเพลง ‘Strange Fruit’ ซึ่งเนื้อหาของเพลงมุ่งเน้นไปที่การต่อต้านการเหยียดผิวในขณะนั้น และการแสดงของเธอในเพลงนี้ถือเป็นสุดยอดโชว์ที่ตรึงผู้ชมได้อยู่หมัดเสมอ
![](https://bangkokradio1.com/web/wp-content/uploads/2022/03/download-2.jpeg)
อย่างไรก็ตาม เธอกลับต้องพบกับปัญหาการเหยียดสีผิวอยู่ตลอดเวลา เช่น โดนไม่ให้เข้าพักในโรงแรมเดียวกับคนขาว ไม่ได้รับการเสิร์ฟอาหาร หรือกระทั่งถูกให้ไปใช้ลิฟท์ขนของ แทนที่ลิฟท์โดยสารปกติ
เหตุการณ์เหล่านี้ยิ่งเป็นแรงผลักดันทำให้เธอต้องการร้องเพลง ‘Strange Fruit’ ซึ่งเปรียบเสมือนเสียงสะท้อนของคนผิวดำที่ถูกเหยียดผิวและเลือกปฏิบัติ แม้จะถูกทั้งรัฐบาลและค่ายเพลงขัดขวาง หรือพยายามเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะมองว่าเพลงนี้เป็นเพลงต้องห้าม
ช่วงที่ฮอลิเดย์เริ่มงานร้องเพลงตามคลับ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เธอเริ่มเสพยา ก่อนจะเข้าสู่วังวนของยาเสพติดหนักขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านสามีคนแรกอย่าง จิมมี มอนโร และเคยถูกจับข้อหามียาเสพติดในครอบครอง และเข้ารับการบำบัด
แม้เธอจะเป็นที่รักของคนผิวดำในอเมริกา และเป็นศิลปินเพลงแจ๊สผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับมองเธอเป็นบุคคลอันตราย โดยเฉพาะในสายตาของ แฮร์รี่ เจ. แอนสลิงเกอร์ หัวหน้าสำนักงานปราบปรามยาเสพติด ซึ่งใช้ปัญหาเรื่องยาเสพติดมาโจมตีเล่นงานฮอลิเดย์
![](https://bangkokradio1.com/web/wp-content/uploads/2022/03/download.jpeg)
17 กรกฎาคม ปี 1959 คือวันที่ บิลลี ฮอลิเดย์ เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวจากสุขภาพที่ย่ำแย่ และโรคตับแข็งกับโรคหัวใจ โดยช่วงที่อยู่ที่โรงพยาบาล เธอยังคงเสพยา นั่นทำให้เธอถูกแจ้งข้อหา และโดนใส่กุญแจมือ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้า
แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ความสำเร็จในแง่ศิลปินของฮอลิเดย์ การันตีด้วยการถูกบรรจุชื่อใน Grammy Hall of Frame, ได้ 4 รางวัลในสาขา Best Historical Album และรางวัล Grammy Lifetime Achievement Award รวมถึงเพลง ‘Strange Fruit’ ยังคงเป็นเพลงอมตะที่สะท้อนปัญหาการเหยียดผิวและการต่อสู้ของคนผิวดำมาจนถึงทุกวันนี้
THE UNITED STATES VS. BILLIE HOLIDAY มีให้รับชมแล้ววันนี้ทาง Netflix