‘เก่งกับเฮง’ มีจริง…. คนหนึ่งในโลกดนตรีคือ Herb Alpert มือทรัมเป็ตที่เริ่มต้นจากวันแรกก็ประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้เลย Herb Alpert มาจากครอบครัวเชื้อสายยูเครนและโรมาเนีย เป็นครอบครัวนักดนตรีโดยแท้ ทั้งคุณพ่อเป็นช่างเสื้อแต่เล่นแมนโดลินระดับออกงานได้ คุณแม่ตอนเป็นสาวเป็นครูสอนเปียโน พี่ชายเป็นมือกลอง พี่สาวเป็นมือเปียโน และน้องสุดท้อง Herb Alpert เป็นมือทรัมเป็ต ความสามารถแรกของ Herb ในโรงเรียนมัธยมคือเป็นนักยิมนาสติคประเภทห่วง แต่เกิดเหตุการณ์พลิกผันต้องเข้าผ่าตัดไส้ติ่งหนึ่งสัปดาห์ก่อนแข่งขัน จึงหันมาทางดนตรีด้วยการหัดเป่าทรัมเป็ต ปี 1950 ได้อยู่ในวงโยธวาทิตของ University Of Southern California (นี่ต้องเป็นเด็กเรียนดี) ปี 1956 ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา Herb Alpert ได้บทการแสดงที่ไม่มีชื่อในเครดิต เป็นมือกลองบนภูเขาเมาท์ซีนายในหนังเรื่อง ‘บัญญัติสิบประการ’ The Ten Commandments นำแสดงโดย Charlton Heston; Yul Brynner เป็นก้าวแรกที่เข้าสู่วงการบันเทิง….
เริ่มต้นชีวิตหลังสำเร็จการศึกษาในปี 1957 ด้วยการเป็นนักแต่งเพลงให้กับสังกัด Keen/ Dore Records ทำหน้าที่ผู้ช่วยโปรดิวซ์กับ Lou Adler ในเพลง Baby Talk ให้กับดูโอ Jan And Dean และเขียนเพลงแรกที่ดังเลย Wonderful World ให้กับ Sam Cooke ในสายงานได้รู้จักกับ Jerry Moss หนุ่มน้อยอีกคนที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาหันมาเอาดีทางวางแผนธุรกิจและส่งเสริมการขายเพลง ผลงานแรกที่ทำให้ Jerry Moss เข้าตาคือการ โปรโมทเพลง ‘16 Candles’ The Crest ขึ้นถึงอันดับสองของชาร์จ Billboard ทั้งสองคุยกันถูกคอเลยจับมือจะสร้างค่ายเพลงของตนเอง ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีทุน ไม่มีสถานที่ จึงใช้โรงรถที่บ้านของ Herb Alpert ตั้งชื่อว่า Carnival Records ไม่มีศิลปิน ก็ให้ Herb Alpert เขียนเพลง Tell It To The Birds (แนววัยทีนโก๋หลังวัง) แล้วร้องในนามแฝง Dore Alpert เป็นเหตุการณ์ในปี 1960
Herb Alpert มาจริงจังกับการเป็นมือทรัมเป็ต เพลงแรกที่บันทึกเสียงชื่อ Twinkle Star ของ Sol Lake(คนนี้เป็นคนแต่งเพลงส่วนใหญ่ให้กับวง The Tijuana Brass) Herb Alpert ไม่พอใจกับฉบับแรกที่บันทึกเสียงเลยขอพักเบรกไปเที่ยวเมืองทีฮัวน่า,เม็กซิโก ได้เข้าไปในสนามสู้วัวกระทิง บรรยากาศของคนดูที่เร่งเร้า, ความสง่างามและเยือกเย็นของมาธาดอร์ และความทรนงของวัวกระทิง แม้จุดจบจะโหดร้าย แต่ทำให้ความรู้สึกของ Herb Alpert กระเจิงและฝังอยู่ในหัว จนเขียนออกมาเป็นเพลง The Lonely Bull และเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่เม็กซิโก Herb จึงใช้ดนตรีลาตินท้องถิ่นเป็นองค์ประกอบโดยมีเสียงทรัมเป็ตนำ เมื่อเพลง The Lonely Bull พีคที่อันดับสองของ Billboard Herb และ Jerry Moss รู้ทันทีว่านี่คือประตูแห่งความสำเร็จเปิดรอรับ Herb Alpert และวงดนตรีที่ต่อมาใช้ชื่อว่า The Tijuana Brass จากความสำเร็จของเพลงนี้ ทำให้มีผลงานของ Herb Alpert & The Tijuana Brass ทั้งหมด 16 อัลบั้มระหว่างปี 1962-1975 แล้วเปลี่ยนเส้นทางมาเป็นศิลปินเดี่ยวถึงปีนี้ 2023 มีผลงานทั้งสิ้น 43 ชุดมียอดขายกว่า 72 ล้านแผ่น 8 แกรมมี่ 1 โทนี่อวอร์ด คงจะยากที่หาใครสักคนที่เริ่มต้นและประสบความสำเร็จทั้งงานและชีวิตส่วนตัวแบบ Herb Alpert คนนี้….
เมื่อรู้ว่าทุกอย่างกำลังลงตัว สองคู่หู Herb Alpert กับ Jerry Moss ได้เปลี่ยนชื่อค่ายเพลง Carnival Records มาเป็น A&M ที่มาจากนามสกุลทั้งสอง Alpert&Moss นั่นเอง สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอคือความสำเร็จที่ไม่เคยมีใครทำได้เท่ากับ Herb Alpert คือการสร้าง ศิลปินในสังกัดให้ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ด้วยที่ Herb Alpert มีคู่หูระดับพ่อมดธุรกิจดนตรีอย่าง Jerry Moss และความเป็นนักดนตรีจึงมีความสัมพันธ์และรู้ถึงแนวดนตรีเชิงลึกของแต่ละวงแต่ละคน ขอยกตัวอย่างมองออกถึงดนตรีแซมบ้าของ Sergio Mendes & Brasil’66; Burt Bacharach; Quincy Jones; The Carpenters (บังเอิญนั่งอยู่ในห้องควบคุมของสตูดิโอ และแนะนำให้เปลี่ยนแนวจากไซเคเดอลิคร๊อคให้มาเป็นป๊อป) Paul Williams; Captain & Tennille; Peter Fampston; Toni Basil; Joan Baez; Rita Coolidge; Styx; Supertramp; Janet Jackson; Chuck Mangione; Police; Bryan Adams; Suzanne Vega; Atlantic Starr; Brenda Russell ฯลฯ ส่วนนี้ที่ผมต้องขอคารวะสามจอกให้เลย และเมื่อถึงสูงสุด Herb Alpert เก็บฉากได้เรียบร้อย ถ่ายโอนธุรกิจ A&M ให้กับ Polygram Records ในมูลค่า 500 ล้านเหรียญแบ่งกับ Jerry Moss ส่วนตัวยังทำงานดนตรีในฐานะศิลปินมีงานออกสู่ตลาดเกือบทุกปี ชีวิตส่วนตัวกินอยู่กับภรรยาคนที่สอง Lani Hall ที่เป็นนักร้องนำในวง Sergio Mendes Brasil’66 (ตอนประกาศแต่งงาน Sergio Mendes โกรธมาก เหมือนบังอาจมากระตุกหนวดเสือ 555 แต่ทุกวันนี้ก็เป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม)
คลิปเพลงที่ Herb Alpert ทัก Burt Bacharach แบบเล่นๆว่า ‘อยากร้องเพลงของนายสักเพลง ช่วยหน่อยได้มั๊ย ไม่อยากเป่าแต่ทรัมเป็ตอย่างเดียว’ วันรุ่งขึ้นเพลง ‘This Guy’s In Love With You’ ที่แต่งเนื้อร้องโดย Hal David ที่ตั้งใจแต่งให้กับนักร้องหญิง แต่ก็ยังหาใครไม่ได้ดังใจ สุดท้ายกลายเป็นนักร้องชายอังกฤษชื่อ Danny Williams บันทึกเสียงเป็นคนแรกใช้ชื่อเพลงว่า ‘That Guy’s In Love’ ขายเฉพาะในอังกฤษ สกอร์ก็มาวางอยู่บนโต๊ะทำงานของ Herb Alpert พร้อมโน๊ตลายมือของ Burt ความว่า ‘Herb….Herb นี่คืออะไรที่นายอาจจะชอบ ลงชื่อ Burt’ เจ็ดเดือนต่อมาเพลงนึ้อยู่บนอันดับหนึ่งของ Billboard สี่สัปดาห์ติดต่อกัน มีความหมายที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เป็นอันดับหนึ่งเพลงแรกของ Herb Alpert, ของ A&M, ของ Bacharach & David ในตลาดอเมริกา
เพิ่งฉลองวันครบรอบคล้ายวันเกิดปีที่ 88 เมื่อวานวันที่ 31 มีนาคม Herb ยังไม่ได้รีไทร์เพราะยังออกทัวร์ทั่วอเมริกาคู่กับ Lani Hall และบัตรขายเกลี้ยงทุกรอบ มาฟัง This Guy’s In Love With You ในบรรยากาศของปี 1968 แฟชั่นและฉากหลังเป็นแคลิฟอร์เนีย Happy Birthday Herb Alpert! …. เป็นเลิศ หทัยเฑียร-
