AfterHours คืนนี้ 13 ตุลาคม…เกมฟุตบอลระดับสโมสรหยุดพัก 1 เดือน (โดยประมาณ) หลีกทางให้กับฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาต้าร์ นอกจากเกมฟุตบอลที่เร้าใจ อีกหนึ่งคือเพลงที่แต่งขึ้นมาเป็นธีมของแต่ละครั้ง ถ้าจะยกให้ ‘ที่สุดของแจ้’ สำหรับผมยกให้ 2 เพลง La Copa de la Vida ในภาคภาษาอังกฤษ The Cup Of Life ร้องโดย Ricky Martin คนประพันธ์ Desmond Child, Darco Rosa, Luis Escolar เป็นฟุตบอลโลกปี 1998 ครั้งที่ 16 ที่ฝรั่งเศส และอีกหนึ่งเพลงในปี 1990 ครั้งที่ 14 ที่อิตาลีเพลง Un’estate italiana ในภาคภาษาอังกฤษ To Be Number One ขับร้องโดยนักร้องท้องถิ่น Edoardo Bennato กับ Gianna Nannini คนประพันธ์ Giorgio Moroder กับ Tom Whitlock และหลายๆครั้งที่เพลงธีมไม่โดนใจแฟนฟุตบอลและไม่มีใครจำได้ด้วยซ้ำ อย่างเช่นครั้งนี้ที่กาตาร์ ด้วยที่ไม่ชำนาญในดนตรีป๊อปสากลจึงคงว่าจ้างทีมงานมาช่วยจัดการ เลยทำใหญ่อลังให้สมกับฐานะเจ้าภาพมหาเศรษฐี คือแทนที่จะเป็นเพลงเดียว กลับจัดเต็มปล่อย 3 เพลงรวด (แล้วใครจะจำได้ว่าเพลงไหนอ่ะ) ที่พูดถึงฟุตบอลโลกในคืนนี้ คงปฎิเสธไม่ได้นี่เกมกีฬาที่สำคัญระดับโลกที่มีคนติดตามมากที่สุด ย้อนกลับไปครั้งที่ 20 ที่บราซิล เป็น ‘Land Of Samba & Bossa Nova’ เพลงโปรโมท (ไม่ใช่ธีมซอง) We Are One เมโลดี้อาจไม่ติดหู แต่ระดับ PitBull กับ Jennifer Lopez ชั่วโมงนั้นเอาอยู่ ซาวด์รวมที่ออกมาเร้าใจในแบบฉบับแดนซ์ในยุคนั้น แต่บรรดานักร้องนักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชาวบราซิลอยากทำอะไรมากกว่านั้น อัลบั้ม Studio Rio presents The Brazil Connection โดยนำเอาเสียงร้องออริจินัลแทรค มาใส่ดนตรีแซมบ้า และบอสซ่าที่เรียบเรียงใหม่ อาทิ Lovely Day Bill Withers; Walk On By Aretha Franklin; Sexual Healing Marvin Gaye; Summertime Sarah Vaughan และเพลงที่จะเปิดในคืนนี้ I’ve Got You Under My Skin Mel Torme เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ผมเก็บสะสม ดนตรีใหม่ที่นำมาเบลนด์กับเสียงร้องดั้งเดิม ทำได้ดีงามมาก ไม่ยัดเยียดไม่จงใจเกินไป 12 เพลงจาก 12 ศิลปิน มีใครบ้างดูจากภาพปกที่ผมแปะไว้ในโพสต์นี้…..มีเบรกที่อาจเรียกว่า Jazz On Films ก็ได้เริ่มจากท่านผู้ฟังแนะนำเพลง You’ve Got A Friend In Me (Toy Story) จึงเป็นหน้าที่ผมที่หาอีก 3 เพลงมาประกบ Everybody Needs A Good Friend (Ted/Norah Jones); Herman’s Habbit (Justin Hurwitz/La La Land); That Old Black Magic (Kris Bowers/The Green Book)… และอีกเบรก (โดยบังเอิญ) Jazz On Musicals Happy Talk (South Pacific); Getting To Know You (King And I); I Could Have Danced All Night (My Fair Lady)….เพลง That’s My Desire เพลง standard ตั้งแต่ปี 1931 ไม่ค่อยมีใครพูดถึงในบ้านเรา แต่ที่ต้นทาง อเมริกา นี่เป็นอีกเพลงอมตะนิรันด์กาลที่มีศิลปินทั้งสาย standard; country; doo-wop; rock นำไปขับร้อง คืนนี้เป็นฝีมือเปียโนของป้า Beegie Adair เสียงร้องของ Ray Stevens… พร้อมกับงานเพลงของ Toots Thielemans; Laura Fygi; Sheena Easton; Tony Hadley; Stan Getz & Joao Gilberto; Anne Walsh; Tom Gaebel; Karen Souza; Billy Fields; Bill Charlap Trio; Pet Shop Boys; ฯลฯ พบกันคืนนี้สองทุ่มถึงสึ่ทุ่ม และรีรันเช้าวันอาทิตย์ถัดไป สิบโมงถึงเที่ยงที่ BangkokRadio1 ….เป็นเลิศ หทัยเฑียร-
- Advertisment -
