Timeless บทเพลงแห่งความคิดถึงเสาร์นี้ ขอเสนอมโนสาเร่ (ยิบย่อย) ของเพลงที่จะมาฟังกัน…. ความจริงซีรีย์ตอนเดียวจบเรื่อง Last Night In Soho ของช่อง Netflix สตรีมมาหลายเดือนแล้ว แต่บังเอิญมีแฟนรายการ Timeless ทักมาว่า รายการไม่ค่อยได้ย้อนไปถึง british invasion นอกจากวง The Beatles เป็นหลัก เลยว่าจะจัดให้คนแรกที่นึกถึงคือ Dusty Springfield เนื่องจากผมเป็นติ่งของลุง Burt Bacharach อีกหนึ่งคิดเพลง A World Without Love เพราะทำนองและการประสานเสียงของ Peter & Gordon ยอดเยี่ยมมาก พลันคิดถึงเพลงประกอบซีรีย์ Last Night In Soho ทั้งหมดหยุดอยู่ช่วงเวลานั้น ก่อนอื่นต้องขอชมผู้สร้าง Edgar Wright ผู้กำกับหนุ่มอังกฤษที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ว่าแกลึกซึ้งกับรายละเอียดของดนตรี ชนิดไม่ใชแค่เพลง แต่ต้องฉบับดั้งเดิมในเวลานั้นด้วย แม้แต่ชื่อหนัง Last Night In Soho ก็เป็นเพลงของวง Dave Dee Dozy Beaky Mich & Tich, Edgar Wright เริ่มโผล่หน้ามาให้เรารู้จักด้วยหนังตลกต้นทุนต่ำ (ระดับ 15,000 เหรียญ) 2-3 เรื่องในช่วง 1995 และมาจับงานหนังต้นทุน 6 ล้านเหรียญแล้วทำเงินได้ถึง 30 ล้าน Shaun Of Dead (หนังซอมบี้) (2004) ไปเข้าตา Stephen Spielberg ให้ Edgar เขียนบทเรื่อง The Adventure Of Tin Tin (2011) แม้จะเป็นเพียงคนเชียนบทแต่เป็นก้าวสำคัญที่ได้เข้าไปในอุตสาหกรรมหนังฟอร์มยักษ์ ต่อด้วย Ant Man (2015); Baby Driver (2017) และมาถึง Last Night In Soho เบรกแรกของ Timeless ขอนำเสนอเพลง A World Without Love (Peter & Gordon); Don’t Throw Your Love Away (The Searchers); There’s Always Something To Remind Me (Sandie Shaw) และ Wishin’ And Hopin’ (Dusty Springfield)….
มี request ของท่านผู้ฟังอยากฟังเพลงเดี่ยวของสมาชิก The Beatles หลังยุบวงไปแล้ว ผมจัดเป็น Oh Yoko (John Lennon) แม้จะไม่ปลื้ม Yoko Ono ที่สมัยก่อนคิดว่านี่คือคนที่ทำให้วง The Beatles ยุบวง (ความจริงมีปัจจัยอื่นมากกว่านี้) แต่ผมชอบเพลง Oh Yoko มากทั้งทำนองและอารมณ์ดีของ John Lennon ที่มีต่อคนรัก… I’ve Got My Mind To Set On You (George Harrison) เพลงเก่าของ James Ray ที่อยู่ในหนัง Last Night In Soho ด้วย…Act Naturally (Ringo Starr) ต้นฉบับ Buck Owens ที่ The Beatles นำไปขับร้องใหม่ในงานชุด Help! (1965) ร้องนำโดย Ringo Starr เป็นควาททรงจำที่ดีของแก ในปี 1989 Buck Owens ได้เชิญชวน Ringo Starr มา duet ในเพลง Act Naturally อีกครั้ง… Mrs. Vandelbilt (Paul McCartney) เพลงสนุกจากงานชุด Band On The Run…
เราจะรู้จักเพลง Hurt ของคณะ The Manhattans มากที่สุด ความจริงเป็นฉบับที่ 6 หรือ 7 ของเพลงนี้ที่ต้นฉบับเป็น Roy Hamilton (1954) ใครที่กำลังเจ็บปวดจากความรักก็จะอินกับเพลง Hurt เป็นพิเศษ ส่วนฉบับไหนที่มีลีลา ‘เจ็บลึกที่สุด’ ก็ว่ากันไป สำหรับผมเป็นฉบับของ Carly Simon (1981) ลองฟังกันในคืนนี้ พี่เธอร้องในซาวด์ blue-eyed soul/blue ยิ่งเสียงแซคโซโฟนที่โหนมาตั้งแต่อินโทรของ Michael Brecker บอกเลยว่า ‘เจ็บจริง’ ครับ……
อีกหนึ่งเบรก ขอเสนอเพลงแนว Philly soul ที่ขับร้องโดยนักร้องผิวขาวที่มีน้ำเสียงในแบบ blue-eyed soul อันประกอบด้วย Patrick Simmons (มีอกีตาร์วง The Doobie Brothers); Paul Young; Joan Osborne; Daryl Hall & John Oates ด้วยบทเพลงของ Thom Bell และเพื่อน…
หนึ่ง request ตรงกับสภาพอากาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณผู้ฟังท่านหนึ่งบอกว่า ตลอด 1 เดือนที่เราพบกับสภาพอากาศแบบมรสุม ทุกเช้าที่จะขับรถออกไปทำงานจะต้องแหงนมองดูฟ้าว่า น้องฝน จะมาหรือไม่ เลยขอเพลง See The Sky About To Rain ของ Neil Young จัดให้ครับ และยังมีเพลงเพราะของ Jimmy Buffett; Art Garfunkel; Paul Simon; Supertramp; Toto; Kansas; Dave Mason; James Taylor; The Beach Boys ฯลฯ พบกันครับ คืนวันเสาร์ที่จะถึงนี้ที่ Bangkokradio1 เวลาสองทุ่มถึงสี่ทุ่ม….เป็นเลิศ หทัยเฑียร-
