เพิ่งได้รับข่าวเมื่อชั่วโมงที่แล้วว่า Tony Bennett ได้จากไปอย่างสงบในวัย 96 ปีที่บ้านพักในนิวยอร์ค หลังจากมีอาการป่วยของอัลไซเมอร์มากว่า 7 ปี Tony Bennett เป็นสัญลักษณ์ของ The Great American Songbook Singer อย่างแท้จริง ตลอด 70 ปีของการร้องเพลงมีผลงานมากกว่า 50 อัลบั้ม 80 ซิงเกิ้ล ได้รางวัล Grammy 20 ครั้งและ Emmy 2 ครั้ง รวมยอดขายอัลบั้มมากกว่า 50 ล้านแผ่น …
Anthony Dominick Benedetto เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 1926 ชอบร้องเพลงตั้งแต่ยังเป็นเด็กในวัย 10 ขวบ ชอบฟังเพลงของ Al Johnson, Judy Garland, Bing Crosby รวมถึงนักร้องแจ๊ซอย่าง Louis Armstrong เริ่มต้นอาชีพร้องเพลงตอนอายุ 13 เป็นบริกรที่ร้องเพลงกล่อมลูกค้าที่เข้ามากินอาหารในภัตตาคารอิตาเลี่ยนในย่านควีนส์ นอกจากทักษะในการร้องเพลงแล้ว Tony Bennett ยังมีพรสวรรค์ในการวาดภาพ ในระดับที่เคยมีนิทรรศการในหอศิลป์มาแล้ว เส้นทางการร้องเพลงของ Bennett ถูกขัดจังหวะจากสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เขาถูกเกณฑ์เป็นทหารราบไปรบที่สมรภูมิยุโรปในช่วงสุดท้ายที่สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง เมื่อสงครามจบลง ในยามเศรษฐกิจตกสะเก็ด Bennett ก็ยึดอาชีพบริกรร้องเพลงและงานที่ต้องใช้แรงงานอื่นเพื่อเลี้ยงชีพ ในขณะเดียวกันก็เข้าแข่งขันร้องเพลงสมัครเล่นจนได้งานร้องเพลงประจำที่ Paramus club ในนิวเจอร์ซีย์ เริ่มมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักดนตรีฝีมือดีอย่าง Stan Getz แซคโซโฟน, Art Tatum เปียโน ทำให้ได้พัฒนาทักษะในการร้องเพลงแจ๊ซแบบก้าวกระโดด วันเวลาของ Bennett เริ่มขึ้นเมื่อ Pearl Bailey นักร้องแจ๊ซหญิงเห็นความสามารถเลยว่าจ้างให้ไปช่วยร้องในโชว์ของเธอที่กรีนิชวิลเลจ Bob Hope ดาราตลกอยู่ในคลับคืนนั้นติดใจลีลาการร้องของ Bennett เลยชวนให้ร่วมทัวร์การแสดง และตั้งชื่อใหม่ว่า Tony Bennett ปีถัดมา 1950 Tony Bennett ส่งเดโมเพลง Boulevard Of Broken Dreams ไปให้ Columbia Records และไดัรับสัญญาเป็นนักร้องอาชีพ ในตอนนั้น Columbia Records เพิ่งเสียนักร้องเสียงดีชื่อ Frank Sinatra ที่หมดสัญญาและย้ายค่ายไปอยู่กับ Warner Brothers ….
Mitch Miller ฝ่ายบริหารของ Columbia Records ไม่ได้ให้ Tony Bennett ร้องเพลงในแนวเดียวกับ Frank Sinatra แต่ให้เริ่มร้องเพลงในแนว contemporary pop ก่อน เพลงแรกที่บันทึกเสียงคือ Because Of You ได้รับความนิยมทันทีจากคนฟังจนขึ้นถึงอันดับหนึ่งของอเมริกา และตามมาด้วย Blue Velvet และมาพีคในปี 1962 กับ I Left My Heart In San Franscisco ที่กลายเป็นเพลงซิกเนเจอร์ประจำตัว
ในช่วงกลาง’60s ที่ตลาดเพลงถูกยึดครองโดยดนตรีร๊อคและป๊อป เริ่มจาก Elvis Presley และต่อด้วย The Beatles Tony Bennett ก็หลบออกจากวงการและกลับมาอีกครั้งในยุค ’80s เกือบจะจบชีวิตจากการเสพโคเคนเกินขนาดดีที่ลูกชาย Danny Bennett ช่วยได้ทัน และลูกชายคนนี้กลายเป็นคนดูแลทั้งสุขภาพและงานเพลงของคุณพ่อ จัดการดึงตัวคุณพ่อกลับจากวงจร Las Vegas ให้กลับไปอยู่และทำงานเพลงประกอบภาพยนตร์ที่นิวยอร์ค ได้ร้องเพลง Life In A Looking Glass ของ Henry Mancini ในหนังเรื่อง That’s Life (1986) ได้ชิงรางวัล Oscar แรกในชีวิต Danny ศึกษาแนวการร้องเพลงของคุณพ่อและคิดว่าน่าจะมีโอกาสในตลาดเพลงของหนุ่มสาว จึงจัดการให้คุณพ่อได้ร้องเพลงในรายการโทรทัศน์เริ่มจากรายการของ David Lettermen; Conan O’Brien; The Simpson Puppets และที่แหวกแนวที่สุดคือรายการ MTV Unplugged ทำให้แฟนเพลงรุ่นใหม่ในยุคต้น’90s ที่คุ้นเคยกับ alternative rock สามารถรับเพลงของ Gershwin; Porter ได้ และเป็นนักร้องเพลงแจ๊ซที่ใส่สูทผูกหูกระต่ายขึ้นเวที Glastonbury….
เพลงของ Tony Bennett นอกจากจะไม่ตกยุคแล้ว ทีมงานสามารถดึงยุคใหม่ให้เข้ามาหาเขาอีกด้วย เริ่มจากอัลบั้มร้องคู่ที่นอกจากจับคู่กับนักร้องรุ่นเดียวกัน ก็มาเป็นนักร้องรุ่นใหม่ทั้งร๊อค, ป๊อป, โซล, ลาติน ได้รับความนิยมไม่แพ้อัลบั้มร้องคู่ของ Frank Sinatra ในยุค’00s Tony Bennett เป็นแขกรับเชิญรายการ The American Idol งานบันทึกเสียงก็จับคู่กับ Lady Gaga อัลบั้มชุด Cheek To Cheek (2014) ขึ้นถึงอันดับหนึ่ง Billboard 200 Albums จนต้องมีชุดสอง Love For Sales (2021) ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายก่อนแขวนไมค์ยังได้ออกทัวร์ทั่วประเทศ กับ Lady Gaga
2016 Tony Bennett มีอาการจากอัลไซเมอร์ แพทย์บอกว่าเป็นระยะเริ่มแรก Tony Bennett ใช้วิธีร้องเพลงสัปดาห์ละสองวันในสตูดิโอส่วนตัวที่บ้าน ในปี 2021 อาการเริ่มหนักขึ้นระหว่างที่อัดเสียงอัลบั้ม Love For Sales กับ Lady Gaga มีบางช่วงที่งุนงงและจำเนื้อเพลงสับสน ในที่สุดก็ยุติการทำงานอย่างเป็นทางการและพักผ่อนที่บ้าน และเมื่อคืนวานที่ผ่านมา Tony Bennett ก็จากไปอย่างสงบ ครอบครัวบอกว่า Tony Bennett ยังสามารถร้องเพลง Because Of You ที่เป็นเพลงแรกในการเป็นนักร้องอาชีพได้จบเพลงก่อนที่จะจากไป….
Tony Bennett เคยมาโชว์ที่ห้องบอลรูมโรงแรมเชอราตันรอยัลออคิดที่ริมน้ำสี่พระยา เป็น exclusive tour ทีมงานเดิมทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว คลิปจากรายการ The Ed Sullivan Show/youtube เพลง I Left My Heart In San Francisco ปี 1964 RIP Tony Bennett….เป็นเลิศ หทัยเฑียร-
