1998 ผมทำงานที่ Love Fm 94.5 ดนตรีป๊อปอยู่ในช่วงเวลาของบอยแบนด์ภาคสอง (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงอย่าง Jakcson 5 หรือ The Osmond) New Kids On The Block จุดสตาร์ทกลาง 80’s ต่อเนื่องไป 25 ปี มีทั้งวงจากนานาประเทศ Take That; Backstreet Boys; NSYNC; Boyzone ฯลฯ จากนั้นก็เป็นภาคสาม One Direction; The Wanted; Jonas Brothers มาถึงวันนี้เป็นวงจากเอเซีย Bigbang; Exo; BTS….
หนึ่งบอยแบนด์ที่ผมขอนำพูดถึงวันนี้เป็นวงสี่พี่น้อง Scott พี่คนโตอายุ 13 และน้องแฝดสาม Dave; Clint; Scott อายุ 12 โดยมีคุณพ่อทำหน้าที่สารพัด ในนามวง The Moffatts มีถิ่นฐานในแคนาดา มีงานถึง 3 อัลบั้ม (1995-1996) ตอนนั้นอายุ 12 เป็นงานดนตรีคันทรีที่พอขายได้ในประเทศ อีกสามปีต่อมา 1998 ได้สัญญาใหม่กับ EMI และดนตรีแนวบอยแบนด์บูมมากทั่วโลก ทีมสร้างสรรค่าย EMI เล็งไปที่ตลาดเอเซียตะวันตกเฉียงใต้ จึงจับวง The Moffatts แต่งตัวใหม่กับดนตรีป๊อปงานชุด ‘Chapter I : A New Beginning โดยเฮดควอเตอร์สั่งการให้ทุกประเทศในย่านนั้นปูพรมกับรายการวิทยุและโปรโมทด้วยการจัดมินิโชว์เคส ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งประเทศเพราะในช่วงเวลานั้น ทางการให้ความสำคัญกับสินค้าลิขสิทธิ์เพื่อให้สินค้าส่งออกต่างประเทศจะไม่ถูกกีดกันถูกบอยคอต ยอดขายเทปและแผ่นเสียงลิขสิทธิ์จึงมีตัวเลขสูงเป็นประวัติการณ์ และที่สำคัญคุ้มค่าที่บรรดาค่ายแผ่นเสียงลงทุนโปรโมทริปของศิลปินในสังกัดตนเอง….
ก่อนที่ The Moffatts จะเดินทางมาประเทศไทย ทีมงานฝ่ายส่งเสริมศิลปินของ EMI ประเทศไทยทำงานอย่างหนัก และด้วยโชคหรือเปล่าก็ไม่ทราบ มีสองเพลงในงาน Chapter I : A New Beginning ถูกรสนิยมของแฟนเพลงอย่างมาก ท่านจำได้ไหมครับ ‘Miss You Like Crazy’ กับ ‘I’ll Be There For You’ กระแสนิยมมาแรงจริง และเมื่อประชาสัมพันธ์ว่า The Moffatts จะมาขึ้นเวทีแบบฟรีคอนเสิร์ต เท่านั้นแหละวันรับบัตรเข้าแถวไม่แพ้วันจอง iPhone สมัยนี้ มีการเรียกร้องให้จัดรอบจำหน่ายบัตรแต่ไทม์ไลน์ของ The Moffatts ไม่สามารถทำได้ ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นและพี่น้องทั้งสี่เติบใหญ่เข้าสู่วัยหนุ่มทัศนะคติแต่ละคนก็เปลี่ยนไป ทำงานชุดสุดท้ายเพื่อให้ครบตามสัญญาที่เซ็นไว้กับค่ายเพลง Submodalities ในปี 2000 และในปีถัดมา 2001 The Moffatts ก็ประกาศยุบวง เวลาหลังจากนั้นเกือบยี่สิบปี มีการรียูเนี่ยนและมีการจัด The Farewell Tour มาจบบริบรูณ์จริงๆประมาณปี 2020 พี่ใหญ่ Scott หันมาเอาดีกับเพลงคันทรีและเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับซุปตาร์เพลงคันทรีแห่งยุค Luke Comb งานสองชุดแรก, Dave หนึ่งในแฝดสามหันมาเปิดสถาบันโยคะและร่วมแจมกับน้องเมื่อมีโอกาส ส่วน Bob กับ Clint จับมือตั้งวง Music Travel Love (ปัจจุบันมีสมาชิก 4.44 ล้านคน) ที่เดินทางตระเวณไปทั่วทุกมุมโลกพร้อมถ่ายทำสารคดีประกอบเพลงที่ทั้งสองร่วมกันดูเอ็ต พร้อมกับทำรายการโทรทัศน์เด็กช่อง Music Travel Kids และแฟรนไชส์กาแฟ Music Java Love และกลายเป็น Music Travel Love ได้รับความนิยมในสตรีมมิ่ง จากความสวยงามของภูมิประเทศต่างๆที่ทั้งสองเดินทางไปทั่วโลกเน้นธรรมชาติมากกว่าในตัวเมือง และแบ็คกราวด์ที่ร้องเพลงมาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ดนตรีที่ออกมาไพเราะน่าฟัง บางคลิปมีคนเข้าชมระดับเกิน 10 ล้านวิว …
ตัวอย่างสักคลิป (เพิ่งโพสต์ใน youtube 11 ชั่วโมง มีคนเข้าชมแล้วกว่าสามหมื่นห้าพันวิว) ที่ Music Travel Love เดินทางไปที่ประภาคาร Rubjerg Knude Lighthouse ในเดนมาร์ก ศิลปินที่มาร่วมร้องที่ใช่ที่สุดคงหนีไม่พ้นเพื่อนร่วมค่าย EMI ในอดีตอย่าง Michael Learns To Rock และแน่นอนที่เป็นเพลง Sleeping Child, หนุ่มมาดเซอร์สองคนจากชวามือคือ Bob กับ Clint ยังมีเค้าเดิม ผมอดคิดถึงไม่ได้เจ้าเด็กน้อยที่เคยมาออกรายการที่ Channel V กับ Love Fm ในวันนั้น Music Travel Love จำชื่อนี้ไว้นะครับ ผมว่ไม่นานคงมาถ่ายทำคลิปในบ้านเรา….เป็นเลิศ หทัยเฑียร
