โปรยทีเซอร์มาหลายเดือนว่า ‘ช๊อยจะขอเก็บฉากแล้วนะ’ ในที่สุดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาอัลบั้มชุด THIMK ของ Stephen Bishop ก็วางตลาดพร้อมกับสาส์นแถลงว่า จะขอยุติการทำงานดนตรีที่ดำเนินยาวนานร่วม 60 ปี หนุ่มน้อยจากซานดิเอโก เจ้าของเพลง On And On; Never Letting Go; Save It For Rainy Day; Seperate Live และ It Might Be You (ประพันธ์โดย Dave Grusin/Alan & Merilyn Bergman) ประกอบหนัง Tootsie 1983 ที่ผ่านมางานทุกชุดจะมีนักดนตรีและนักร้องรับเชิญมาช่วยงานบันทึกเสียงจำนวนมากจริงๆ เดิมทีผมเข้าใจว่าเป็นทีมรับจ้าง แต่ก็เห็นบางคนมาช่วยงานตั้งชุดแรก Careless 1976 มาถึงชุดล่าสุด THIMK 2025 อย่าง Eric Clapton ถ้าไม่สนิทกันคงจะไม่ใช่….
เริ่มต้นจากเห็นวง The Beatles จากรายการ The Ed Sullivan Show ขอร้องให้พี่ชายซื้อกีตาร์ให้ ตั้งวงดนตรีแนว british invasions กับเพื่อนในไฮสคูลแล้วดรอปเรียนเล่นดนตรีจริงจังตามคลับในลอสแองเจลิส ตลอดแปดปีพยายามเขียนเพลงและไปออดิชั่นกับค่ายเพลงถูกรีเจ็คหมด Stephens Bishop ไม่ย่อท้อไปเป็นพนักงานแต่งเพลงให้สำนักลิขสิทธิ์ค่าจ้างสัปดาห์ละห้าสิบเหรียญ จุดหักเหในชีวิตมาถึงเมื่อเพื่อนสาว Leah Kunkel ที่ทำงานฝ่ายกฏหมายลิขสิทธิ์เพลงนำเทปเดโมของ Stephen Bishop ไปนำเสนอ Art Garfunkel ปรากฏว่า Art เลือกสองเพลง ‘Looking For The Right One’ และ ‘The Same Old Tears On New Background’ ไปประกอบอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สอง ‘Breakaway’ 1975 ด้วยการอุปถัมภ์ในครั้งนั้นของ Art Garfunkel ทำให้ Stephens Bishop ได้สัญญาบันทึกเสียงฉบับแรกจาก ABC Records สำหรับอัลบั้มแรก ‘Careless’ 1976 ที่มีเพลงฮิต Save It For The Rainny Day กับ On And On มีแขกรับเชิญที่เรียกแขกได้อย่างแรง Eric Clapton กีตาร์, ร้องประสาน Art Garfunkel กับ Chaka Khan ยังไม่นับ Lee Ritenour; Larry Carlton; Jay Graydon; Andrew Gold ฯลฯ 1982 Dave Grusin รับงานดนตรีของหนังเรื่อง Tootsie ของ Sydney Pollack แต่งทำนอง It Might Be You และให้ Alan & Marilyn Bergman แต่งเนื้อร้อง พอเสร็จนักร้องที่ Dave Grusin ชี้นิ้วเป็นคนแรกคือ Stephen Bishop หากใครที่เป็นแฟนเพลงของ Dave Grusin จะเข้าใจทันทีเพราะดนตรีของ Dave Grusin แต่งส่วนใหญ่จะออกโทนอบอุ่น และผมไม่แปลกใจที่อัลบั้ม THIMK จะมี It Might Be You บันทึกเสียงใหม่เป็น Dave Grusin เดี่ยวเปียโนและ Stephen ร้องเดี่ยว…
จาก Careless 1976 มาถึง THIMK 2025 รวมความกว่ายี่สิบอัลบั้ม สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์นอกเหนือจากเสียงร้อง บทเพลง ที่ไม่เคยขาดเลยคือนักดนตรีนักร้องรับเชิญ บอกเลยว่าถ้าไม่ความสัมพันธ์มิตรภาพ ค่ายเพลงต้นสังกัดคงไม่สามารถจ่ายงบประมาณระดับนี้มาตลอดหกสิบปี นี่คือแขกรับเชิญของงานชุดนี้ Eric Clapton, Sting, Art Garfunkel, Michael McDonald, Kenny Loggins, Graham Nash, Jimmy Webb, Marilyn Martin, David Benoit, Steve Porcaro, Gerry Beckley กับ Dewey Bunnell (สองคนนี้คือวง America) และ Christopher Cross มีเพลงเก่าสองเพลง One More NIght กับ It Might Be You และ In The Limelight ที่เคยเป็นแค่เดโมไม่เคยบันทึกเสียง ควบคุมการผลิตโดย Marcus Eaton แทคสุดท้ายชื่อ A Message From Stephen เป็นคำขอบคุณถึงเพื่อนๆและมิตรรักนักเพลงที่ติดตามกันมา และปิดท้ายกับการเดี่ยวเปียโนเพลง On And On โดย Jimmy Webb จบบริบรูณ์แบบแฮปปี้เอนดิ้ง
มิวสิคเพลง ‘Now That I’ve Hit The Big Time’ เพลงที่ Stephen Bishop แต่งให้คุณแม่ ได้แค่เดโมไม่เคยบันทึกเสียง คุณแม่ไม่เคยมีโอกาสได้ฟัง จนมาถึงงานชุด THIMK… นอกจากความสำเร็จของบทเพลงที่ว่ายิ่งใหญ่แล้วก็ไม่เท่ากับฉากสุดท้ายที่จะอำลาแฟนเพลง และขอยกความดีงามให้กับคุณแม่ที่ดูแลมาตั้งแต่เยาว์วัย ขับรถตระเวณไปงานต่างๆ ไปทานข้าวและขนมด้วยกัน คอยดูแลว่ากางเกงในสะอาดมีพอใส่ได้ทุกวัน เล่าเรื่องอบอุ่นของคุณพ่อกับพี่ชาย บอกให้โกนหนวดเคราก่อนไปเสนองานแต่ก็ไม่เคยทำตาม ค่ายเพลงเปรียบเทียบว่าคนรวยก็จะรวยมากขึ้นและคนจนก็จะยากจนมากขึ้นเช่นกัน และตัวเขาอยู่ตรงกลางแต่ก็ไม่ท้อที่จะเขียนเพลงต่อไปจนประสบความสำเร็จ มาวันนี้สิ่งที่สำคัญต้องเล่นใหญ่คือการอำลางานเพลงและแฟนเพลงที่ติดตาม แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการประกาศเกียรติคุณของคุณแม่ที่มีแต่ให้ กราฟฟิคลายเส้นที่เล่าเรื่องประกอบเนื้อเพลงสวยงามและเข้าใจง่ายประทับใจมาก มาชมกันครับ จาก Stephen Bishop/youtube…. เป็นเลิศ หทัยเฑียร-