Timeless บทเพลงแห่งความคิดถึง คืนวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน…. Charlene Duncan สาวแคลิฟอร์เนียที่ได้รับการเซ็นสัญญาเข้าเป็นศิลปินของ Motown ในยุคที่ย้ายสำนักงานใหญ่จากดีทรอยต์มาลอสแองเจลิส เป็นนโยบายให้กับยุคสมัยและภูมิศาสตร์ จะไม่ใช่แค่เพลงแนว R&B และศิลปินผิวสีอีกต่อไป Jose Feliciano; Teena Marie และ Charlene Duncan เป็นศิลปินผิวขาวที่ได้รับโอกาส ก่อนหน้านั้นก็จะมีแค่วง Rare Earth กับเพลง Get Ready ในปี 1969 ที่เป็นนักดนตรีผิวขาวเบอร์ใหญ่ Charlene Duncan ไม่ใช่นักร้องที่มีโปรไฟล์ระดับเดียวกับ Jose Feliciano หรือ Teena Marie อาจเป็นการทดลองยาขนานใหม่สำหรับค่าย Motown ลองทำเพลงป๊อปบ้าง ซิงเกิลสองเพลงแรกตัดออกมาแทบจะไม่มียอดขาย เธอจึงถูกโยกไปทำงานร้องเดโมให้กับศิลปินในสังกัด หนึ่งเพลงคือเพลง One Day In Your Life ปี 1975 สำหรับ Michael Jackson ขณะเดียวกันสัญญาฉบับทดลองงานก็มาถึงบทสุดท้ายกับงานชิ้นที่สามคือถ้ายังพลาดเป้าอีก ก็คงจบกัน Motown ไม่ได้ทำอะไรแบบขอไปที เหมือนมีความเชื่อมั่นว่า Charlene Duncan คนนี้น่าจะใช่ ดังนั้นจึงส่งต่อไปให้ Ron Miller (คนนี้แต่งเพลง For Once In My Life ให้ Stevie Wonder) Berry Gordy jr. CEO บริษัทลงมานั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ ร่วมกับ Don Costa และ Ron Miller เป็นเดบิวอัลบั้มชื่อ Charlene เพลง I’ve Never Been To Me ปล่อยเป็นซิงเกิลที่สองขึ้นถึงแค่อันดับที่ 97 ของ Billboard Hot100 ส่วนอัลบั้มไม่เข้าอันดับใดๆเลย งานเลี้ยงเลยจบแบบอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ปล่อยผ่านไม่มีบทต่อท้าย ส่วน Charlene Duncan ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานจากลอสแองเจลิสไปอยู่ลอนดอนคนละฝั่งทวีป ยังชีพเป็นพนักงานร้านขนมหวานในย่านอิลเฟิร์ด …ปี 1982 ดีเจสถานวิทยุของแทมป้าเบย์ชื่อ Scott Shannon เคยทำงานในบริษัท Motown ได้เปิดเพลง I’ve Never Been To Me ของ Charlene Duncan เป็นฉบับยาวที่มีท่อนพูด (spoken bridge) จากอัลบั้ม สำหรับซิงเกิลเพลงเดียวกันจะไม่มีท่อนพูด (spoken bridge) เพื่อให้เวลาสั้นกระชับเวลาเปิดโปรโมททางวิทยุทั่วไป เหตุผลที่ DJ Scott Shannon เปิดฉบับยาวและเปิดโรเตชั่น (เปิดบ่อย) ถี่ยิบ เพราะโดนแฟนสาวที่จีบกันอยู่สั่งมาอีกที และกลับกลายเป็นท่อน spoken bridge นี้เรียกร้องความสนใจจากคนฟังได้และคนฟังก็เริ่มถามถึง มากขึ้นๆ และสถานีวิทยุอื่นๆก็ต้องหามาเปิด กระแสตีกลับ DJ Scott Shannon โทรไปหานายเก่าประธานบริษัทฯ Jas Lasker เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง จึงรีบโทรไปหา Charlene Duncan ที่ร้านขนมในอิลเฟิร์ดเสนอให้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ และจัดการออกเป็นอัลบั้มใหม่ชื่อ I’ve Never Been To Me ตรงกับชื่อเพลง และใช้ชื่อ Charlene คำเดียว รอบนี้ขึ้นถึงอันดับ 3 ของ Billboard Hot100 รวมถึงอันดับขายดีเกือบทุกประเทศที่วางจำหน่าย แม้ว่าหลังจากนั้น Charlene จะไม่มีเพลงอื่นที่ได้รับความนิยม แต่นี่คือปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อ คงมีไม่บ่อยที่จะเกิดขึ้นอีก …นอกจาก I’ve Never Been To Me แล้ว Timeless บทเพลงแห่งความคิดถึงคืนนี้ยังมีเพลง If You Walked Away ที่เราจะเข้าใจว่าเป็นเพลงของวง Sherbet ความจริงเป็นเพลงส่วนตัวของ Daryl Braithwaite ซึ่งจะไม่มีอยู่ในแผ่นของ Sherbet ใดๆทั้งสิ้น ที่คนฟังเข้าใจเป็นอย่างนั้น เพราะกลยุทธในการโปรโมทคอนเสิร์ต Sherbet ครั้งที่สอง (เพราะคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ห้องรามายานา โรงแรมรามาสีลม ปัจจุบันคือโรงแรมฮอลลิเดย์อินน์ ในค่ำคืนสิ้นปี ผมจำไม่ได้ว่าปีอะไรขออภัยครับ มุมถนนสี่ลมตัดกับสุรศักดิ์ ห้องจุคนได้ร่วมพันคน แต่มีแฟนเพลงมาชมบางตามาก วง Sherbet ก็ดีมีน้ำใจ บอกกับโปรโมเตอร์ว่า ให้โปรโมทใหม่แล้วจะกลับมาแสดงให้อีก บังเอิญผู้เกี่ยว ข้องคอนเสิร์ตครั้งนั้นมีแผ่นเพลงนี้ในมือและฟังแล้วรู้ได้เลย เพลง If You Walked Away “โดนจริงๆ” จึงนำมาเปิดโปรโมทในรายการ และคนฟังได้ยินเสียงร้อง Daryl ก็เข้าใจว่าเป็นงานของ Sherbet รวมถึงเพลง You’re My World ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในออสเตรเลีย ก็เป็นงานเดี่ยวของ Daryl ไม่ใช่ของ Sherbet และงานนี้ยิ่งเสมือนจริงเมื่อเทปคาสเซ็ทที่ไม่ใช่เทปลิขสิทธิ์ (เทปผียี่ห้อ “สี่ลู่”ได้รวมทั้งสองเพลงนี้อยู่ในเทปรวมฮิตของ Sherbet… สำหรับคอนเสิร์ตครั้งที่สองจัดที่สนามยิมเนเซี่ยม ข้าง MBK ปทุมวัน บัตรขายเกลี้ยง พื้นไม้ที่สร้างไว้สำหรับเกมบาสเก็ตบอลเกือบจะรับน้ำหนักแรงขย่มของแฟนเพลงไม่ไหว กรมพละจึงไม่อนุญาตให้จัดคอนเสิร์ตอีกเป็นสิบปี ถือเป็นปรากฏการณ์อันหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจคอนเสิร์ตต่างประเทศบูมจนถึงวันนี้ ขอกล่าวถึงเท่านี้ก่อนนะครับ เพราะยาวมากแล้ว) Timeless คืนนี้จะเปิดต้นฉบับที่ขับร้องโดยคนแต่งเป็นชาวนิวยอร์คชื่อ David Pommeranz พร้อมกับเพลงของ Rubert Holmes; Donna Summer; Tina Arena; John Lennon; Bay City Rollers; Sixpence None The Richer; Lindsey Buckingham & Christine McVie; Jane Olivor; Jeff Lynne ฯลฯ สองทุ่มถึงสี่ทุ่มเสาร์นี้ Bangkokradio1 แล้วพบกัน….เป็นเลิศ หทัยเฑียร-