Timeless บทเพลงแห่งความคิดถึง เสาร์ที่ 22 ตุลาคม… นอกจากวง Ohio Players; Earth, Wind & Fire กับ Kool & The Gang แล้ววงดนตรีที่เล่นแนว funk รุ่นแรกตั้งแต่ต้น’60s ก็จะมีอีกวงคือ Commodores ที่มาจากนักศึกษา 6 คนของ Tuskegee University ใน Alabama สมาชิกคนหนึ่งในวง Commodores คือ Lionel Richie หน้าที่เป่าแซคโซโฟนและร้อง (เป็นบางครั้ง) เพลงที่สร้างชื่อตั้งแต่วันแรกคือเพลงบรรเลง Machine Gun ต่อด้วย I Feel Sanctified (1974) ที่ว่ากันว่าเป็น prototype ของเพลง Play That Funky Music (1976) ของวง Wild Cherry ทำให้ Commodores เป็นสัญลักษณ์ของดนตรี funk ในยคนั้นจนกระทั่งอัลบั้มชุดที่สาม Movin’ On (1975) ที่โปรดิวเซอร์ James Anthony Carmichael (คนนี้ดูแลวง The Temptations และ Jackson 5) อยากมีเพลงร้องบัลหลาดมาเสริม เป็นครั้งแรกที่ Lionel Richie ได้ร้องนำกับเพลง soul ที่แต่งเอง Sweet Love ขึ้นถึงอันดับ5 ของ Billboard Hot100 ทำให้ต้นสังกัด Motown โดย Berry Gordy jr ส่งสัญญานว่า “เอาอีก, เอาอีก”…
Just To Be Close To You; Easy; Still; Sail On; Three Times A Lady; Oh No คือเซ็ตเพลงที่ทำให้คนฟังเริ่มสนใจ Lionel Richie มากกว่าตัววง Commodores ในที่สุด Lionel Richie ก็แยกตัวไปเป็นนักร้องเดี่ยวตามคำแนะนำของต้นสังกัดในปี 1982 สามเพลงแรกอย่าง Truly; My Love; You Are ในอัลบั้มแรกประสบความสำเร็จท่วมท้น นับเป็นเวลาของ Lionel Richie โดยแท้…
การเสีย Lionel Richie ก็เหมือนวง LTD ที่เสียนักร้องนำ Jeffrey Osborne ไป Commodores ซวนเซ (แต่ไม่ล้ม)ไปหลายปี อัลบั้มชุด 13 ไม่ดีเหมือนเดิม จะกลับไปยึดเพลงแนว funk ในยุค’80s ก็ไม่แรงเหมือนก่อน จึงต้องแก้สถานะการณ์ด้วยการมีเพลงแนว soul ballad แม้จะไม่ถนัด ต้นสังกัด Motown จัดหาโปรดิวเซอร์มือดี Dennis Lambert ที่แต่งเพลงได้ (คนนี้เขียนเพลงดังมากอย่าง Don’t Pull Your Love (Hamilton, Joe Frank & Reynolds); Ain’t No Woman (Like The One I’ve Got)(Four Tops); It Only Takes A Minute (Tavares); We Built This City (Starship) มาคุมงานชุดที่ 11 ชื่อ Nightshift (1985) และเพลงเอกคือ Nightshift เขียนโดย Walter Orange (มือกลอง/ร้องนำ; Franne Golde และ Dennis Lambert) สามารถกอบกู้สถานะภาพของวงได้โดยขึ้นไปถึงอันดับสามของ Billboard Hot100
เพลง Nightshift เป็นเพลงที่ดีมากทั้งดนตรีและเนื้อหา ไม่แพ้เพลงไหนของ Lionel Richie เลย เป็นเรื่องราวที่รำลึกถึงเพื่อนเก่า Marvin Gaye ซึ่งจะอยู่ในท่อนแรกพร้อมกับมีคำ ‘What’s Goin’ On’ ในเนื้อเพลง และอีกท่อนพูดถึง Jackie Wilson พร้อมกับคำ Higher And Higher ที่มาจากเพลง Your Lifted Me Higher And Higher ของ Jackie Wilson งานร้องมีการแบ่งเป็นสัดส่วน William Orange มือกลอง/ร้องนำ รับท่อนที่1 J.D. Nicholas คนที่มาแทน Lionel Richie ในวงรับหน้าที่ร้องท่อนที่ 3 ไลน์ประสานสมาชิกทั้งหมดของ Commodores รับหน้าที่ไป และเป็นเพลงฮิตเพลงสุดท้ายของ Commodores …
เสาร์ที่แล้ว 15 ตุลาคม Bruce Springsteen ปล่อยซิงเกิลใหม่จากงานชุด Only The Strong Survive ที่มีกำหนดวางตลาดกลางเดือนหน้า เป็นอัลบั้มเพลง cover ยกชุดครั้งแรกของ The Boss Bruce Springsteen ไม่ใช่มาถึงทางตันแต่เป็นการรวมเพลงแนว Soul/R&B ที่แกชื่นชมอย่าง The Sun Ain’t Gonna Shine Anymore; What Becomes The Broken Hearted; When She Was My Girl; Someday We’ll Be Together; และ Nightshift ที่ตัดออกมาเป็นซิงเกิลแรก Timeless คืนนี้จะเปิดเพลงนี้ในชั่วโมงที่สอง ใครที่เคยซาบซึ้งกับเสียงร้อง The Boss จากเพลง Secret Garden; Streets Of Philadelphia มาฟังพร้อมกันครับ…..
พร้อมกับเพลงของ Teri DeSario & KC; Ed Sheeran; Shawn Colvin เพลงจากหนัง Begin Again; Rudderless; เพลงตามคำแนะนำ Welcome Home Son (Radical Face) ที่ดังมาจากหนังโฆษณากล้อง Nikon เมื่อหลายปีก่อน, Stephanie Mills; Viola Wills; Eric Carmen; Lemar; Phoebe Snow ฯลฯ จัดเต็มด้วยความคิดถึง คืนนี้สองทุ่มถึงสี่ทุ่ม ที่ Bangkokradio1…เป็นเลิศ หทัยเฑียร-